"บัวลอย" มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ หากเราจะหารับประทานกันในสมัยนี้ ก็จะมีขายอยู่ทั่วไป แต่คงจะยากสักหน่อยที่จะมีร้านที่อร่อยๆจริงๆให้เราได้รองรับประทานกัน และโดยหลักๆแล้ว ส่วนประกอบของบัวลอยก็จะมี แป้ง กะทิ และน้ำตาล
บัวลอยไข่หวาน
ขนมหวานชวนรับประทาน รับลองจะติดใจ..
วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554
บัวลอยเจ้าเพื่อนยาก..
นึกถึงแล้วอยากกินจังเลย ว่ากันว่าบัวลอยที่อร่อยนั้นหาได้ยาก แต่ก็มีขายอยู่ทั่วไป เป็นขนมหวานที่ชวนน่าลอง ความหวานจากน้ำเชื่อมและความเข็มนิดๆของกระทิ ทำให้บัวลอยนั้นเป็นที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย สามารถทานเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยทีเดียว และหากจะทำทานเองก็ทำได้ไม่ยากอีกด้วย
ประวัติบัวลอย..
ร้อยเรื่องเล่าพันตำนาน
คลองบางกอกน้อย
ตำนานบัวลอย
สุดคลองบางกอกน้อย.... พายเรือตามหาบัวลอย จนเหงื่อพี่ย้อยโซมกาย เสียงร้อง เพลงของนายท้ายที่นอนร้องเพลง เปิดพุงสบายใจเฉิ่ม แว่วมาเข้าหูผมในช่วงบ่ายของวัน อาทิตย์ ขณะที่กำลังแอบอู้งานนอนอยู่บนเรือที่ลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อรอลูกทัวร์ จึงหยิบดินสอกับสมุดพกมาเขียนเรื่องตำนานบัวลอยคลองบางกอกน้อย
ตำนานบัวลอย จะว่ามีที่มาจากขนมบัวลอยก็ไม่เชิง แต่จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้เหตุเกิด จากเมื่ออดีตกาลนานมาแล้วมีสตรีตั้งท้องต้องการที่จะช่วยแบ่งเบาภาระผัวโดยการทำขนมขาย แม้ผัวจะห้ามปราอย่างไรก็ไม่ฟัง เมื่อผัวไปทำงานก็จะทำขนมบัวลอยใส่เรือแล้วพาย ไปขายในคลอง ชาวบ้านที่จะซื้อก็จะตะโกน
“บัวลอยจ้า..บัวลอยมาทางนี้หน่อย" และด้วยขนมบัวลอยทำจากกระทิ เมื่อทำเสร็จแล้วก็เอาลงเรือขายเลยประกอบกับฝีมือการทำขนม บัวลอยที่มีความอร่อยจนติดอกติดใจชาวบ้าน จนใครๆก็เรียกเธอว่า “บัวลอย”
วันหนึ่งเมื่อผัวกลับจากทำงานไม่เห็นเมียสุดที่รัก จึงพายเรือตามหาบัวลอยพร้อม กับร้องตะโกนว่า “บัวลอย บัวลอย” แต่ก็ไม่พบแม้แต่เรือ
ของเธอ หลังจากนั้นไม่นานก็มีคน พบศพเธอลอยไปติดอยู่ที่ท่าเรือของวัดในคลองจึงมีการนำขึ้นมาทำพิธีตามศาสนาและด้วย ความเชื่อของคน ไทยที่ว่า ถ้าตายท้องกลมผีจะเฮี้ยนจึงไม่ได้มีการเผาแต่แค่ฝั่งเอาไว้ และ มีบางคนมาขอหวยปรากฎว่าถูกจนโด่งดังไปทั่วผู้คนถูกหวยเป็นว่าเล่น
แต่แล้วเช้าวันหนี่งศพของบัวลอยก็หายไป คาดว่าเจ้ามือหวยคงมาทำการขุดศพเอาไปทิ้งและสะกดวิญญาณไว้ หลังจากนั้นตำนานบัวลอย ก็เริ่มถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา แต่นี้เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆกันมาของคลองบางกอกน้อย และได้มีการนำมาทำ เป็นเพลง ดังเพลง บางกอกน้อยที่ ครู ศรเพชร ศรสุพรรณ ได้นำมาขับร้อง
คลองบางกอกน้อย
ตำนานบัวลอย
สุดคลองบางกอกน้อย.... พายเรือตามหาบัวลอย จนเหงื่อพี่ย้อยโซมกาย เสียงร้อง เพลงของนายท้ายที่นอนร้องเพลง เปิดพุงสบายใจเฉิ่ม แว่วมาเข้าหูผมในช่วงบ่ายของวัน อาทิตย์ ขณะที่กำลังแอบอู้งานนอนอยู่บนเรือที่ลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อรอลูกทัวร์ จึงหยิบดินสอกับสมุดพกมาเขียนเรื่องตำนานบัวลอยคลองบางกอกน้อย
ตำนานบัวลอย จะว่ามีที่มาจากขนมบัวลอยก็ไม่เชิง แต่จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้เหตุเกิด จากเมื่ออดีตกาลนานมาแล้วมีสตรีตั้งท้องต้องการที่จะช่วยแบ่งเบาภาระผัวโดยการทำขนมขาย แม้ผัวจะห้ามปราอย่างไรก็ไม่ฟัง เมื่อผัวไปทำงานก็จะทำขนมบัวลอยใส่เรือแล้วพาย ไปขายในคลอง ชาวบ้านที่จะซื้อก็จะตะโกน
“บัวลอยจ้า..บัวลอยมาทางนี้หน่อย" และด้วยขนมบัวลอยทำจากกระทิ เมื่อทำเสร็จแล้วก็เอาลงเรือขายเลยประกอบกับฝีมือการทำขนม บัวลอยที่มีความอร่อยจนติดอกติดใจชาวบ้าน จนใครๆก็เรียกเธอว่า “บัวลอย”
วันหนึ่งเมื่อผัวกลับจากทำงานไม่เห็นเมียสุดที่รัก จึงพายเรือตามหาบัวลอยพร้อม กับร้องตะโกนว่า “บัวลอย บัวลอย” แต่ก็ไม่พบแม้แต่เรือ
ของเธอ หลังจากนั้นไม่นานก็มีคน พบศพเธอลอยไปติดอยู่ที่ท่าเรือของวัดในคลองจึงมีการนำขึ้นมาทำพิธีตามศาสนาและด้วย ความเชื่อของคน ไทยที่ว่า ถ้าตายท้องกลมผีจะเฮี้ยนจึงไม่ได้มีการเผาแต่แค่ฝั่งเอาไว้ และ มีบางคนมาขอหวยปรากฎว่าถูกจนโด่งดังไปทั่วผู้คนถูกหวยเป็นว่าเล่น
แต่แล้วเช้าวันหนี่งศพของบัวลอยก็หายไป คาดว่าเจ้ามือหวยคงมาทำการขุดศพเอาไปทิ้งและสะกดวิญญาณไว้ หลังจากนั้นตำนานบัวลอย ก็เริ่มถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา แต่นี้เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆกันมาของคลองบางกอกน้อย และได้มีการนำมาทำ เป็นเพลง ดังเพลง บางกอกน้อยที่ ครู ศรเพชร ศรสุพรรณ ได้นำมาขับร้อง
ร้านบ้วลอยที่แนะนำ
ร้านนี้มีชื่อเรียกง่ายๆ..คือ ร้านบัวลอยไข่หวาน
ร้านนี้จะมีลุงกับป้าช่วยกันขาย 2 คน ลุงตี๋ กับ ป้านี สองสามีภรรยา หน้าตายิ้มแย้ม ใจดี พูดจาเพราะ ลุงตี๋กับป้านีจะเปิดร้านตอน 15.30 และจะขายถึง 21.00 แล้วเก็บร้านกลับบ้าน
นอกจากลุงตี๋กับป้านีจะขายบัวลอยไข่หวานแล้ว ก็ยังมีขนมหวานอื่นๆอีกด้วย อาทิเช่น ถั่วเขียวต้ม เต้าส่วน ลูกเดือย สาคูเขียว สาคูถั่วดำ ข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวเปียกลำไย ข้าวเหนียวเปียกข้าวโพด หากคนที่ชอบรับทานขนมหวานอยู่แล้วจะต้องติดใจเพราะด้วยน้ำกะทิที่เข้มข้น สดใหม่ ไม่ค้างคืน และราคาไม่แพง ปริมาณขนม 1 ถุงเหมือนขนม 2 ถุงเลย แถมยังสะอาด ไม่ใส่สีอีกด้วย ถ้าเป็นขนมหวานจะอยู่ที่ถุงละ 10 บาท แต่ถ้าเป็นบัวลอยไข่หวานแล้ว ใส่ไข่ 20 บาท ไม่ใส่ไข่ 17 บาท
ลุงตี๋กับป้านียังบอกอีกว่าเราจะเน้นความสะอาด ของที่ใช้ทำจะใช้วันต่อวันไม่มีค้างคืน ลุงตี๋กับป้านีจะขายทุกวันไม่มีวันหยุด แต่ถ้าจะหยุดก็จะหยุดไปทำธุระส่วนตัว
ร้านนี้ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯและจะอยู่ที่ถนนสวนผัก ร้านหาได้ง่ายเพราะตั้งอยู่ตรงร้านสะดวกซื้อ 7-ELEVEN...
ร้านนี้จะมีลุงกับป้าช่วยกันขาย 2 คน ลุงตี๋ กับ ป้านี สองสามีภรรยา หน้าตายิ้มแย้ม ใจดี พูดจาเพราะ ลุงตี๋กับป้านีจะเปิดร้านตอน 15.30 และจะขายถึง 21.00 แล้วเก็บร้านกลับบ้าน
นอกจากลุงตี๋กับป้านีจะขายบัวลอยไข่หวานแล้ว ก็ยังมีขนมหวานอื่นๆอีกด้วย อาทิเช่น ถั่วเขียวต้ม เต้าส่วน ลูกเดือย สาคูเขียว สาคูถั่วดำ ข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวเปียกลำไย ข้าวเหนียวเปียกข้าวโพด หากคนที่ชอบรับทานขนมหวานอยู่แล้วจะต้องติดใจเพราะด้วยน้ำกะทิที่เข้มข้น สดใหม่ ไม่ค้างคืน และราคาไม่แพง ปริมาณขนม 1 ถุงเหมือนขนม 2 ถุงเลย แถมยังสะอาด ไม่ใส่สีอีกด้วย ถ้าเป็นขนมหวานจะอยู่ที่ถุงละ 10 บาท แต่ถ้าเป็นบัวลอยไข่หวานแล้ว ใส่ไข่ 20 บาท ไม่ใส่ไข่ 17 บาท
ลุงตี๋กับป้านียังบอกอีกว่าเราจะเน้นความสะอาด ของที่ใช้ทำจะใช้วันต่อวันไม่มีค้างคืน ลุงตี๋กับป้านีจะขายทุกวันไม่มีวันหยุด แต่ถ้าจะหยุดก็จะหยุดไปทำธุระส่วนตัว
ร้านนี้ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯและจะอยู่ที่ถนนสวนผัก ร้านหาได้ง่ายเพราะตั้งอยู่ตรงร้านสะดวกซื้อ 7-ELEVEN...
ราคาไม่แพงจริงๆเมื่อเห็นปริมาณ
ขั้นตอนการทำและวัตถุดิบ
1.
ขั้นตอนการทำและวัตถุดิบที่ใช้
ขั้นตอนการทำและวัตถุดิบที่ใช้
สิ่งที่ต้องเตรียมคือ ฟักทองสุก เผือกสุก และใบเตย นำทั้ง 3 อย่างนี้ ไปปั่นในเครื่องปั่นนำกากและเศษออกด้วยการกรองด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นให้เราเตรียมแป้งข้าวเหนียวตามปริมานที่เราต้องการ นำน้ำที่ได้จากการปั่นเตรียมไว้ เทใส่ลงไปในภาชนะที่เราใช้นวดแป้ง นวดจนเป็นเนื้อเดียวกันทั้ง 3 อย่าง เป็นอันเสร็จ แต่ถ้าอยากมีลูกบัวลอยสีอื่นๆ ก็อาจใช้น้ำคั้นจากผักหรือผลไม้ที่มีสีสันก็ได้..
น้ำกะทิ
เลือกหมอตามขนาดที่ต้องการ ถ้าทานกันไม่กี่คนอาจใช้หมอใบไม่ต้องใหญ่มาก แต่ถ้าเป็นงานเลี้ยงอาจใช้หมอใบใหญ่ๆ ขั้นตอนต่อไปเราก็นำน้ำกะทิเทใส่หมอ นำเกลือใส่ลงไปให้มีรสชาติพอเค็มนิดๆ
น้ำเชื่อม
ต้มน้ำแล้วใส่น้ำตาลปีบลงไป ให้ได้รสหวานของน้ำตาล จากนั้นเราก็ใส่ใบเตยลงไปเพื่อเพิ่มความหอมของน้ำเชื่อมด้วย
เครื่องใส่บัวลอย
เราอาจใช้ แห้ว เผือก ฝักทอง หั่นเป็นลูกเต๋า หรือ ถั่วดำ ถั่วแดง ข้าวโพด ก็ได้แล้วแต่เราชอบ..
ไข่หวาน
แนะนำว่าให้ตอกไข่ไก่ลงไปต้มในน้ำเชื่อม ต้มสุกพอเป็นยางมะตูม ไม่สุขไปและก็ไม่ดิบไป กำลังพอดี แต่ถ้าเราอยากทานแบบไข่ไก่สุกเลย ก็สามารถต้มสุกได้เช่นกัน แล้วแต่เราเลือกทาน..
------------------------------------------------------------------------
วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554
ประโยชน์์ที่ได้รับจากวัตถุดิบที่เราจะใช้
ประโยชน์ที่ได้รับจากวัตถุดิบ
1.ฟักทอง มีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง และที่จะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ "เบต้าแคโรทีน" ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง สามารถช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ แถมเบต้าแคโรทีน ยังช่วยต้านความชรา ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า และบั้นเอวได้เป็นอย่างดี
2.เผือก มีฤทธิ์เป็นกลาง เป็นอาหารที่บำรุงสุขภาพและให้พลังงานไปพร้อม ๆ กัน มีรสหวานอมเผ็ดนิดหน่อยเหมาะกับเด็กและผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาด้านการย่อยอาหาร เผือกมีแคลอรีสูงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ส่วนที่ใช้ในการรับประทานคือส่วน หัว ของเผือกที่อยู่ใต้ดิน เผือกจะมีสารอาหาร คาร์โบไฮเดรต โปรตีน โพแทสเซียม วิตามินบี 1 วิตามินซี และที่สำคัญมีธาตุเหล็กสูงและยังมีฟลูอออไรด์สูง ช่วยทำให้ฟันไม่ผุ กระดูกแข็งแรง เผือกยังช่วยบำรุงไต บำรุงลำใส้และแก้อาการท้องเสียอีกด้วย
3.ใบเตย เตยมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ขับปัสสาวะ
4.ข้าวโพด ข้าวโพดหวานสามารถต้านโรคมะเร็ง และมีสารตัวล้างพิษมากกว่าผักผลไม้อื่น
5.แห้ว มีวิตามินและเกลือแร่ สำหรับแก้ร้อนใน กระหายน้ำ และสมานแผลในกระเพาอาหารได้ดีทีเดียว ส่วนแห้วสดๆก็สามารถช่วยขับน้ำนมให้กับคนที่เพิ่งคลอดลูกอีกด้วย และสามารถ ลดคลอเลสเตอรอลได้
6.ถั่วแดง ช่วยขับปัสสาวะ บรรเทาอาการปวดบวม บรรเทาอาการปวดข้อต่อ ปรับสภาพเลือด กำจัดหนอง ขับพิษ บำบัดอาการประจำเดือนผิดปกติ ขับน้ำนม
7.ถั่วดำ อุดมไปด้วย แร่ธาตุ เช่น โฟเลท แมกนีเซียม กรดแอลฟาลิโนริอิค วิตามิน บี 6 และเส้นใย โดยเฉพาะเส้นใย ในถั่วดำ
8.ไข่ไก่ เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ในไข่ขาวจะมีโปรตีนคุณภาพสูง คือมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย สูง และไม่มีคลอเลสเตอรอล ส่วนในไข่แดงจะมีสารอาหารหลายชนิด ได้แก่โปรตีน ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุ ไขมันในไข่แดงส่วนใหญ่จะเป็นไขมันไม่อิ่มตัว รวมถึง omega-3 ที่ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ธาตุเหล็กในไข่ มีคุณค่าเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์ แต่เคี้ยวง่ายกว่าเนื้อสัตว์ จึงเหมาะสมกับเด็กทารก และคนสูงอายุที่มีปัญหาเรื่องฟัน โฟลิก เป็นสารที่ป้องกันเลือดจาง และป้องกันความพิการแต่กำเนิด มีความจำเป็นในหญิงที่ตั้งครรภ์ โคลีน เป็นสารที่ช่วยเสริมสร้างความจำ ช่วยพัฒนาการในเด็กที่กำลังเติบโต สารอาหารอื่นได้แก่ ไรโบเฟลวิน วิตามินเอ บี ดี และ อี วิตามินที่ไม่พบในไข่คือ วิตามินซี
9.กะทิ กะทิประกอบด้วยกรดไขมันที่มีขนาดปานกลาง ซึ่งถูกย่อยได้ง่าย และเคลื่อนย้ายได้สะดวก เมื่อบริโภคเข้าไป จะผ่านลำคอไปยังกระเพาะเข้าสู่ลำไส้ แล้วไปถูกเผาผลาญให้เป็นพลังงานในตับโดยไม่ไปสะสมเป็นไขมันเหมือนกับน้ำมันไม่อิ่มตัวที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ดังนั้นผู้บริโภคกะทิจึงแข็งแรงเพราะได้พลังงานทันทีที่บริโภคเข้าไป อีกทั้งยังไปกระตุ้น ให้ต่อมธัยรอยด์ทำงานได้ดีขึ้น ก่อให้เกิดความร้อน จากผลของอุณหภูมิ ซึ่งช่วยในการเผาผลาญอาหารที่บริโภคเข้าไปพร้อมกัน ให้เปลี่ยนเป็นพลังงานแทนที่จะไปสะสมเป็นไขมันในร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้นความร้อนที่เกิดขึ้น ยังไปช่วยสลายไขมันที่ร่างกายสะสมอยู่ก่อนหน้านั้น ให้สลายตัวไปเป็นพลังงาน จึงทำให้ผู้บริโภคผอมลง
10.เกลือ มีประโยชน์ในการบำรุงและ ซ่อมแซมสุขภาพ แม้หลอดลมส่วนที่มีขนาดเล็กที่สุด โดยอนุภาคเกลือเหล่านี้ จะทําการแยกสกัดแปลกปลอมต่างๆ ให้หลุุดออก ซึ่งต่อมาจะถูกกําจัดทิ้งโดยการขับของเสียทางระบบทางเดินหายใจ เช่น การไอ จาม และทางเสมหะ
วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)